เรื่องย่อหนัง The Girl with the Needle (2025)

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
ประเภท: ระทึกขวัญ, สยองขวัญ, ดราม่า
ผู้กำกับ: Pigen med nålen
นำแสดงโดย: Vic Carmen Sonne, Trine Dyrholm, Besir Zeciri, Joachim Fjelstrup, Tessa Hoder, Avo Knox Martin
ความยาว: 115 นาที
เรื่องย่อ
ดูหนังใหม่ล่าสุด เรื่อง The Girl with the Needle ถ่ายทอดชีวิตของหญิงสาวนาม “คาโรลีน” (รับบทโดย Vic Carmen Sonne) ในกรุงโคเปนเฮเกนช่วงปี 1919 หลังสงครามโลก ครั้งที่ หนึ่งจบลง เมืองเต็มไปด้วยเศษซากความสูญเสีย เมียอดีตทหารหายสาบสูญ แรงงานหญิงถูกปลดออกจากโรงงาน และสาวน้อยที่ตั้งครรภ์ต้องพึ่งพาแรงกายเพื่ออยู่รอด คาโรลีนเผชิญกับความว่างเปล่าในชีวิต: สามีที่ถูกส่งไปยุทธภูมิไม่เคยกลับมาอย่างเป็นทางการ ทำให้เธอไม่อาจขอชดเชยใด ๆ ได้ เธออาศัยอยู่ในห้องเช่าหรูไม่ได้ ต้องทำงานเป็นช่างเย็บผ้าและเพื่อนสนิทของเธอคือ “ฟรีดา” ที่ร่วมต่อสู้ในโลกโหดร้ายนี้เช่นกัน
ความสิ้นหวังพาเธอไปสู่ความสัมพันธ์กับเจ้าของโรงงานผู้มีฐานะ “ยอร์เกน” ผู้สัญญาว่าจะดูแลเธอเมื่อเธอตั้งครรภ์ แต่แล้วไม่ช้าเขาก็ถูกแม่เข้าสะกัดไม่ให้แต่งงานกับคาโรลีน สิ้นทางเลือก คาโรลีนจึงตัดสินใจเดินไปที่ห้องอาบน้ำสาธารณะเพื่อทำแท้งด้วยเข็มขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่นำเธอไปสู่ “ดักมาร์” (รับบทโดย Trine Dyrholm) ผู้หญิงกลางคนมีเสน่ห์และดำเนินกิจการรับเลี้ยงเด็กอย่างลับ ๆ ผ่านร้านขายลูกกวาด ภายใต้หน้ากากของธุรกิจอันแสนหวาน เธอเสนอทางเลือกให้คาโรลีน: ถ้าไม่อยากเลี้ยงลูกเอง ก็ให้เธอช่วยดูแลเด็กในอ้อมอกของดักมาร์ แล้วค่อยส่งไปให้ครอบครัวที่พร้อมกว่า
คาโรลีนรับงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก (wet-nurse) เพื่อแลกกับที่อยู่อาศัยและค่าแรง ดักมาร์ให้เธอดูแลเด็กแรกเกิดที่ถูก “ส่งต่อ” ไปเรื่อย ๆ เธอเริ่มรู้จักเอรีนา เด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านเดียวกัน และได้เห็นเบื้องหลังของระบบรับเลี้ยงเด็กที่ไม่ไร้เดียงสาอย่างที่คิด
วันหนึ่งคาโรลีนสังเกตเห็นความผิดปกติ: เด็กที่ถูกส่งต่อจากดักมาร์ไม่กลับไปพบครอบครัวใด ๆ เด็กบางคนถูกขัง เด็กบางคนหายไปในความเงียบ และในที่สุด คาโรลีนก็ตามดักมาร์ออกไปถึงซอกย่านที่พบภาพความรุนแรง ดักมาร์ฆ่าเด็กหนึ่งคนแล้วทิ้งศพไว้ในท่อระบายน้ำ เธอเปิดเผยกับคาโรลีนว่าเด็กที่มอบให้แม่ของคาโรลีนนั้นเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของเธอ คาโรลีนตกใจ เกิดสงสารโกรธกลายเป็นความผิดหวัง และในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เธอตัดสินใจกระโดดออกจากหน้าต่างหนีออกมา
ในตอนท้าย คาโรลีนได้รับการช่วยเหลือให้เข้าร่วมคณะละครสัตว์ที่สามีเธอกลับมาทำงานอยู่ เขาทั้งสองคนเริ่มกระบวนการรักษาจิตใจของคาโรลีนจากเธอที่เคยติดเอเธอร์(ether) และจากอดีตที่อยู่ในเงามืด
1. เงามืดหลังสงครามและชีวิตของหญิงที่ถูกลืม
เรื่องราวเกิดขึ้นในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ช่วงปี 1919 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุด เมืองที่เคยรุ่งเรืองกลับกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความอดอยาก และบาดแผลทางใจที่มองไม่เห็น ผู้หญิงจำนวนมากต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดหลังสามีและคนรักหายสาบสูญในสงคราม หนึ่งในนั้นคือ คาโรลีน (Karoline) หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ที่เคยเป็นภรรยาของทหาร แต่เมื่อสามีไม่กลับมา เธอกลายเป็น “หญิงม่ายที่ไม่มีสิทธิ์เป็นม่าย” เพราะยังไม่มีหลักฐานว่าชายคนนั้นเสียชีวิต ทำให้เธอไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ต้องดิ้นรนเลี้ยงชีพด้วยการเย็บผ้าและรับจ้างทั่วไปในเมืองที่ไม่เหลือที่ยืนให้คนจน
คาโรลีนใช้ชีวิตอย่างเหนื่อยล้า เธอเชื่อว่าทุกสิ่งในโลกนี้ถูกจัดไว้ให้คนรวยและผู้ชายเท่านั้น ความโดดเดี่ยวผลักให้เธอมีสัมพันธ์กับนายจ้างผู้มั่งคั่งชื่อ ยอร์เกน ซึ่งสัญญาว่าจะดูแลเธอ แต่เมื่อเธอตั้งครรภ์ เขากลับทอดทิ้งด้วยความกลัวอับอายและแรงกดดันจากครอบครัว คาโรลีนหมดหนทาง ไม่อาจเลี้ยงลูกได้ด้วยตัวเอง จึงตัดสินใจทำแท้งอย่างลับ ๆ ในห้องน้ำสาธารณะ โดยใช้ “เข็ม” ซึ่งเป็นทั้งเครื่องมือของความเจ็บปวดและสัญลักษณ์ของความสิ้นหวัง นั่นคือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมที่เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล
2. การพบพานกับปีศาจในร่างหญิงใจดี
หลังเหตุการณ์นั้น คาโรลีนได้พบกับ ดักมาร์ (Dagmar) หญิงสูงวัยที่ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยเมตตา เธออ้างว่ามีสถานรับเลี้ยงเด็กสำหรับแม่ที่ไม่พร้อมจะเลี้ยงลูกเอง ภายใต้ฉากหน้าของร้านลูกกวาดและบ้านหลังเล็ก ๆ ดักมาร์เสนอให้คาโรลีนทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แลกกับที่อยู่อาศัยและอาหารเล็กน้อย คาโรลีนที่สิ้นหวังและไม่เหลือใคร ตัดสินใจรับข้อเสนอนั้นโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังเดินเข้าสู่ “บ้านแห่งความตาย”
ในตอนแรก ทุกอย่างดูปกติ คาโรลีนช่วยให้นมเด็กอ่อน ทำความสะอาด ดูแลทารกที่ถูกนำมาฝากไว้ไม่กี่วันก่อนจะถูก “ส่งต่อ” ไปยังครอบครัวใหม่ แต่ไม่นานเธอก็เริ่มสังเกตว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล เด็กที่ถูกส่งออกไปไม่เคยกลับมามีชื่อเสียงอีกเลย ไม่มีจดหมาย ไม่มีการติดต่อ ไม่มีแม้แต่ข่าวว่าเด็กเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ คาโรลีนเริ่มตั้งคำถาม ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มถูกดักมาร์ควบคุมอย่างแนบเนียน ทั้งทางจิตใจและร่างกาย ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนแม่กับลูก เหมือนผู้ช่วยกับนายจ้าง และในขณะเดียวกันก็ดูคล้ายหญิงสาวกับปีศาจที่ใช้ความรักล่อลวงเหยื่อ
เมื่อคาโรลีนได้เห็นกับตาว่าดักมาร์ฆ่าเด็กหนึ่งคนเพื่อปกปิดความผิด และรู้ว่าเด็กที่เธอเคยอุ้มไว้ในอ้อมแขนกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อ เธอจึงเริ่มตระหนักว่าผู้หญิงที่ดูอบอุ่นและมีเมตตาคนนี้คือฆาตกรเลือดเย็นที่ซ่อนตัวอยู่ในคราบของ “ผู้ช่วยชีวิต”
3. ความรอดที่มาพร้อมบาดแผลและบทสรุปแห่งความสิ้นหวัง
คาโรลีนพยายามหลบหนีจากบ้านหลังนั้น ขณะเดียวกันความทรงจำและความรู้สึกผิดก็ตามหลอกหลอนเธอไม่หยุด เธอเห็นภาพเด็กทารกในฝัน ได้ยินเสียงร้องไห้ยามค่ำคืน และรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของบาปที่ไม่อาจลบได้ แม้เธอจะรอดออกมาได้ในที่สุด แต่จิตใจของเธอกลับแตกสลายไม่ต่างจากร่างกายที่เคยถูกทำร้าย เธอถูกช่วยเหลือโดยคณะละครเร่ที่เดินทางผ่านเมือง และได้กลับมาพบกับสามีที่รอดชีวิตจากสงครามโดยบังเอิญ เขาพยายามช่วยเธอฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ความทรงจำของสิ่งที่เธอเห็นและทำให้ชีวิตไม่อาจกลับไปเหมือนเดิมได้อีก
ตอนจบของเรื่องไม่ได้มอบความสุขให้ผู้ชม แต่ให้ความเงียบงันปนความเศร้า คาโรลีนเดินอยู่บนชายหาด มองท้องฟ้าที่หม่นเหมือนจิตใจของเธอ เสียงคลื่นซัดกลบเสียงเด็กร้องในหัวของเธอที่ไม่มีวันหายไป ภาพยนตร์จบลงด้วยความรู้สึก “รอดแต่ไม่รอด” เธอมีชีวิตต่อไป แต่ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยเงาแห่งอดีตที่ไม่สามารถลบล้างได้
บทสรุป
ในปี 1919 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุด กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยซากความสูญเสีย เศรษฐกิจล่มสลาย ทหารที่กลับมาจากแนวหน้าไม่มีบ้านจะอยู่ ขณะที่ผู้หญิงนับพันคนต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่ไม่เหลือที่ยืนให้พวกเธอ “คาโรลีน” หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ คือหนึ่งในนั้น เธอเคยเป็นภรรยาของทหารที่หายตัวไปในสนามรบโดยไม่มีหลักฐานการตาย ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยหรือการช่วยเหลือจากรัฐ เธอต้องทำงานหนักในโรงงานเย็บผ้าเพื่อเลี้ยงชีพ ท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน ความอดอยาก และผู้คนที่หมดศรัทธาในชีวิต
ในช่วงเวลาแห่งความโดดเดี่ยว คาโรลีนเริ่มมีความสัมพันธ์กับชายผู้มั่งคั่งชื่อ “ยอร์เกน” เจ้าของโรงงานที่เธอทำงานอยู่ เขาให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือและดูแลเธอ แต่เมื่อเธอตั้งครรภ์ ยอร์เกนกลับหายไปจากชีวิต ปล่อยให้เธอเผชิญความอับอายและความจนอย่างเดียวดาย คาโรลีนจมอยู่กับความสิ้นหวัง เธอเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำสาธารณะและพยายามทำแท้งด้วยเข็มเย็บผ้า เข็มที่เคยเป็นเครื่องมือหาเลี้ยงชีพกลับกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความสิ้นหวังของผู้หญิงที่ไม่มีทางเลือก ในความเจ็บปวดนั้นเอง เธอได้พบกับหญิงลึกลับชื่อ “ดักมาร์” หญิงวัยกลางคนที่ดูมีอำนาจและความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
ดักมาร์เสนอให้คาโรลีนมาทำงานที่บ้านของเธอ โดยอ้างว่าดูแลสถานรับเลี้ยงเด็กและช่วยแม่ที่ไม่พร้อมจะเลี้ยงลูกเอง คาโรลีนที่หมดหนทางยอมรับข้อเสนอนี้ด้วยความหวังว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง บ้านของดักมาร์ตั้งอยู่ในตรอกแคบ ๆ หลังร้านลูกกวาด มีเสียงหัวเราะของเด็กเล็กและกลิ่นนมลอยอบอวล แต่เบื้องหลังความอบอุ่นนั้นกลับมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล คาโรลีนเริ่มสังเกตเห็นว่าเด็กที่ถูกฝากไว้กับดักมาร์ไม่มีใครได้กลับไปหาครอบครัวของตนเลย เด็กบางคนหายไปโดยไม่มีคำอธิบาย และบางครั้งในยามค่ำคืน เธอได้ยินเสียงร้องแผ่วเบาจากห้องใต้ดิน ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่ความเงียบงันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อคาโรลีนเริ่มตั้งคำถาม ดักมาร์ก็เริ่มเผยด้านที่แท้จริงออกมา เธอไม่ใช่หญิงใจดีอย่างที่แสดง แต่คือหญิงผู้เย็นชาและบิดเบี้ยว ผู้เชื่อว่าเธอกำลัง “ช่วย” เด็กเหล่านั้นให้พ้นจากโลกที่โหดร้าย ด้วยการพรากชีวิตพวกเขา คาโรลีนตกอยู่ในภาวะช็อกเมื่อรู้ว่าทารกที่เธอเคยดูแลด้วยความรัก ได้กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของดักมาร์ ความรู้สึกผิดและความหวาดกลัวหลอมรวมกันจนเธอแทบเสียสติ เธอพยายามหนีออกจากบ้านนั้นแต่ก็ถูกตามล่าอย่างบ้าคลั่ง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่กลายเป็นเกมของการควบคุมระหว่างผู้หญิงสองคนที่ต่างเป็นเหยื่อของสังคมในรูปแบบที่ต่างกัน — คาโรลีนคือเหยื่อของความยากจน ส่วนดักมาร์คือเหยื่อของโลกที่ทำให้เธอเชื่อว่าความตายคือความเมตตา
ในตอนท้าย 24-mv.com คาโรลีนสามารถหนีออกมาได้หลังจากการเผชิญหน้าครั้งสุดท้ายที่ทั้งสะเทือนใจและโหดร้าย เธอได้รับการช่วยเหลือจากคณะละครเร่และได้พบกับสามีที่เธอเชื่อว่าตายไปแล้ว แต่การพบกันอีกครั้งไม่ได้มาพร้อมความสุขอย่างที่ฝันไว้ คาโรลีนกลายเป็นหญิงที่แตกสลายทั้งกายและใจ เธอไม่อาจลืมเสียงร้องของเด็ก ๆ ที่ดับไปในมือของปีศาจในคราบแม่ เธอสูญเสียความเชื่อในมนุษย์และในพระเจ้า เหลือเพียงเงาของอดีตที่ตามหลอกหลอน
ภาพสุดท้ายของหนังคือภาพของคาโรลีนยืนอยู่ริมทะเลในยามค่ำ เธอปล่อยให้คลื่นซัดร่างราวกับรอให้ธรรมชาติชะล้างบาปในใจ น้ำทะเลเย็นเฉียบเหมือนเข็มที่เคยแทงเธอในวันแรกของโศกนาฏกรรม แสงสลัวจากขอบฟ้าไม่ได้ให้ความหวัง แต่ให้ความสงบอันเจ็บปวด เธอรอดชีวิต แต่ไม่อาจหลุดพ้นจากสิ่งที่เห็นและสิ่งที่ทำ
The Girl with the Needle (2025) จึงเป็นมากกว่าหนังดราม่าประวัติศาสตร์ทั่วไป มันคือบทกวีแห่งความโหดร้ายของสังคมหลังสงคราม ที่สะท้อนว่าผู้หญิงในยุคแห่งความสิ้นหวังต้องแลกศักดิ์ศรีและชีวิตเพื่ออยู่รอด ดักมาร์คือภาพแทนของสังคมที่กลืนกินผู้หญิง คาโรลีนคือผู้รอดที่แบกความเจ็บไว้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเธอ “เข็ม” ที่เป็นชื่อของหนังไม่ได้หมายถึงเพียงเครื่องมือของความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเส้นด้ายที่เชื่อมโยงชีวิตของผู้หญิงทั้งสองเข้าด้วยกัน หนึ่งคนใช้มันเพื่อเย็บชีวิตที่ขาด อีกคนใช้มันเพื่อทำลายความทุกข์ หนังจบลงโดยไม่ให้คำตอบว่าใครถูกหรือผิด แต่ทำให้ผู้ชมรู้ว่าความโหดร้ายที่แท้จริงไม่ได้มาจากปีศาจ หากแต่มาจากสังคมที่ไม่เคยมีที่ให้ผู้หญิงได้หายใจอย่างแท้จริง.
#ดูหนังออนไลน์ #หนังออนไลน์ #ดูหนังฟรี #ดูหนัง #ดูหนังออนไลน์ฟรี #หนังใหม่ #ดูหนังใหม่ #ดูหนังใหม่ล่าสุด #เว็บดูหนังใหม่ #เว็บดูหนังฟรี #เว็บดูหนังออนไลน์ #24-mv
กลับด้านบน